ฟอกสีฟัน

การ “ฟอกสีฟัน” นับเป็นนวัตกรรมด้านทันตกรรมที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะใครๆ ก็อยากมีฟันขาวสวยที่ช่วยให้มีรอยยิ้มที่น่ามองยิ่งขึ้น แต่ธรรมชาติของฟันที่ผ่านการขบเคี้ยว รับประทานอาหารต่างๆ มาตลอด ทำให้ฟันเปลี่ยนสีไป การฟอกสีฟันจะช่วยสร้างบุคลิกที่ดีและความมั่นใจมากขึ้น

ประเภทการฟอกสีฟัน

กรณีฟันเหลืองที่เกิดขึ้นจากเนื้อฟัน แก้ไขได้โดยการฟอกสีฟัน ซึ่งมี 2 ประเภทคือ

  1. การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ เป็นการฟอกโดยใช้น้ำยาเปอร์ออกไซด์ (peroxide) เป็นน้ำยามีความเข้ม 35%  โดยการใช้น้ำยาร่วมกับแสงที่เป็นตัวกระตุ้นให้น้ำยาทำงานด้วยกลไกคือ เข้าไปกำจัดเม็ดสีในฟันให้จางลง ฟันจึงดูขาวขึ้น วิธีนี้มีจุดเด่นคือ ทำโดยแพทย์มืออาชีพ มีความปลอดภัย ใช้เวลาทำไม่นาน ประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็ได้ฟันขาวแล้ว แต่ข้อเสียคือ อยู่ได้ไม่นาน หลังจาก 6 เดือนไป ฟันก็จะค่อยๆ เหลืองขึ้นและกลับไปเป็นเหมือนเดิม และมีค่าใช้จ่ายสูง
  2. การฟอกสีฟันโดยทำเองที่บ้าน วิธีนี้มักใช้ต่อจากการพบแพทย์ เนื่องจากต้องมีการพิมพ์ปาก ทำถาดฟอกสีฟันซึ่งเป็นขนาดเฉพาะบุคคล และต้องเรียนรู้วิธีการทำที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันผลข้างเคียง ซึ่งวิธีนี้ มักใช้น้ำยาฟอกสีฟันในรูปแบบเจล ซึ่งมีความเข้มข้นน้อยกว่าน้ำยาที่ทันตแพทย์ใช้ในคลินิกมาก ข้อดีของวิธีนี้คือ ค่าใช้จ่ายต่ำกว่า สามารถทำซ้ำได้บ่อยกว่า คือ เบื้องต้นสามารถทำได้ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นสามารถทำซ้ำได้อีกทุก 6 เดือน จึงทำให้ฟันขาวได้ต่อเนื่องและนานกว่า ข้อเสียคือ การทำเองที่บ้านอาจไม่ชำนาญมากพอ ความผิดพลาดอาจเกิดได้ง่ายกว่า

ราคาฟอกสีฟัน 

การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ เช็คโปรโมชั่นฟอกสีฟัน >> คลิก

ขั้นตอนการฟอกสีฟัน

       เมื่อปรึกษาทันตแพทย์และตกลงที่จะฟอกสีฟันแล้ว จะมีการตรวจสุขภาพปากและฟันก่อนทำ เช่น ขูดหินปูน อุดฟันที่ผุ เพราะอาจมีผลให้เสียวฟันถ้าน้ำยาไปโดนฟันส่วนที่ผุ ในส่วนของผู้ไปฟอกสีฟัน ต้องเตรียมทำความสะอาดก่อนทำ เตรียมความเข้าใจ ความคาดหวังในผลที่จะได้ ส่วนขั้นตอนการฟอกสีฟันของทันตแพทย์มีดังนี้

      • ใส่เครื่องมือช่วยอ้าปาก จะได้สบายขณะที่ทำ
      • เทียบเฉดสีของฟันที่จะฟอก ซึ่งจะขาวได้เพียงใดขึ้นอยู่กับฟันก่อนทำด้วย
      • ฉีดน้ำยาป้องกันบริเวณเหงือกรอบฟันเป็นแนวป้องกันไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันเลยไปถูกเหงือก
      • ฉายแสงช่วยให้น้ำยาป้องกันแห้งก่อนที่จะลงน้ำยาฟอกฟันขาว
      • ลงน้ำยาฟอกสีฟันลงบนพื้นฟันให้ทั่ว
      • ฉายแสงที่ช่วยให้น้ำยาทำปฏิกิริยากับฟัน แสงจะช่วยกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกฟันให้ทำงานได้ดีขึ้น ทิ้งไว้ในรอบแรก ก่อนที่จะมีการล้างน้ำยาออก เทียบสีฟันให้คนไข้ดู และทำรอบต่อไป ระยะเวลาที่ใช้ในช่วงนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าทำกี่รอบ อาจจะประมาณ 30-45 นาที

        ทันตแพทย์จะทำการฟอกสีฟัน และให้คนไข้ดูหลังทำเสร็จ หากพึงพอใจในสีฟันแล้ว อาจทำเพียงแค่ 2 รอบ ไม่ต้องมีรอบที่ 3

        เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดตรวจฟันครั้งต่อไปหลังจาก 6 เดือน

ข้อปฏิบัติตัวหลังฟอกสีฟันอย่างถูกต้อง

       ทั้งในขณะที่ฟอกสีฟันและภายใน 24 ชั่วโมงหลังฟอกสีฟันเสร็จ อาจมีอาการเสียวฟันบ้าง ดังนั้น อาจต้องมียาที่จะบรรเทาอาการเสียวฟัน รวมถึงเลี่ยงอาหารที่เย็นจัดหรือร้อนจัด และให้ปฏิบัติต่อไปนี้

      • ภายใน 1 สัปดาห์หลังฟอกฟัน ควรงดอาหารประเภทที่มีรสจัด อาหารที่มีสีที่อาจจะติดกับผิวฟัน เช่น แกงต่างๆ        
      • งดดื่มน้ำชา กาแฟ ไวน์ น้ำอัดลม
      • งดสูบบุหรี่

        ทั้งนี้เพื่อช่วยยืดอายุฟันขาวให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น

ใครบ้างที่เหมาะจะฟอกสีฟัน

       คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพราะในเด็กที่อายุน้อยกว่านี้ โพรงประสาทฟันยังไม่หยุดเติบโต และต้องไม่ใช่หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร ไม่ใช่คนที่กำลังมีปัญหาเรื่องฟัน หรือแพ้สารที่ใช้ฟอกฟัน หรือมีปัญหาโรคเหงือก ทั้งนี้อยู่ในวินิจฉัยของทันตแพทย์ว่า ฟันหรือปัญหาสุขภาพฟันส่วนตัวเป็นอุปสรรคต่อการฟอกสีฟันหรือไม่

ประโยชน์ของการฟอกสีฟัน

      • ช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีฟันเหลืองเนื่องจากการใช้งานที่สามารถฟอกให้ขาวขึ้นได้
      • ช่วยเสริมบุคลิก เพราะฟันขาวช่วยเพิ่มเสน่ห์ในรอยยิ้ม

 

ฟอกสีฟันอย่างไรให้ปลอดภัยหายห่วงจากอันตราย

      • ฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
      • กรณีฟอกฟันเองที่บ้าน ควรอยู่ภายใต้การแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงเลือกใช้น้ำยาที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผ่านการเรียนรู้วิธีทำอย่างถูกต้อง รวมถึงเรื่องผลกระทบข้างเคียง
      • ระมัดระวังเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ทั้งหมด

 

ความเสี่ยงจากการฟอกสีฟัน

หากทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ความเสี่ยงมีน้อยมากหรือไม่มีเลย อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นบ้างระหว่างทำและหลังทำ เนื่องจากแพทย์จะทราบว่า คนไข้เหมาะที่จะทำหรือไม่

อนึ่ง สำหรับคำถามที่พบบ่อย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเสี่ยงในการฟอกฟัน ความขาวของฟันจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ ฯลฯ ซึ่งได้กล่าวไว้แล้วในเนื้อหาข้างต้น ทั้งนี้ การฟอกสีฟันให้ปลอดภัยควรอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหลัก