Category Archives: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการจัดฟัน

รีเทนเนอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับคงตำแหน่งของฟัน หลังจากถอดอุปกรณ์จัดฟัน ซึ่งหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันแล้ว รีเทนเนอร์จะทำหน้าที่ประคองฟันไม่ให้เคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งอื่นๆ เพราะตามธรรมชาติของฟันหลังถอดเครื่องมือจัดฟันแล้วสภาพกระดูกและเหงือกหุ้มฟันต้องใช้เวลาในการปรับสภาพให้เข้ากับตำแหน่งใหม่ ซึ่งจะต้องใช้เวลานานพอสมควร รีเทนเนอร์จึงต้องทำหน้าที่พยุงฟันเอาไว้ตรงจุดที่เหมาะสมคำแนะนำหลังใส่รีเทนเนอร์ หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน ต้องใส่รีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์บอกอย่างเคร่งครัด เพื่อเลี่ยงโอกาสการเกิดปัญหาฟันล้มหรือฟันพยายามเคลื่อนตัวกลับไปที่เดิม หากหลงลืมใส่รีเทนเนอร์เป็นเวลานาน เมื่อกลับมาใส่ อาจจะรู้สึกแน่น คับปาก ไม่สบายเหมือนใส่ตอนแรก แสดงว่ามีการเคลื่อนตัวของฟันแล้ว แต่หากใส่รีเทนเนอร์ไม่ได้เลย ต้องรีบกลับไปพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด เมื่อถอดรีเทนเนอร์ตอนรับประทานอาหารหรือแปรงฟัน ควรทำความสะอาดทันทีและเก็บใส่กล่องให้มิดชิด เพราะการวางรีเทนเนอร์ไว้เฉยๆ หรือห่อทิชชู่เอาไว้จะทำให้รีเทนเนอร์เสียหายหรือหลงลืมได้ การทำความสะอาดรีเทนเนอร์ไม่ดีหรือไม่ทำความสะอาดรีเทนเนอร์เลยจะทำให้มีแบคทีเรียและคราบหินปูนสะสมที่รีเทนเนอร์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดกลิ่นปากและฟันผุได้ อย่าให้รีเทนเนอร์อยู่ใกล้ความร้อน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหาย ผิดรูปได้ รีเทนเนอร์ควรเปลี่ยนตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์กำหนด โดยรีเทนเนอร์แบบลวดใช้งานได้ 5-10 ปี และรีเทนเนอร์แบบใสใช้งานได้ 6 เดือน – 2 ปี

          คลินิกทันตกรรมชิดลมสกายเทรน มุ่งมั่นในการให้การดูแลสุขภาพฟัน และช่องปาก เราเป็นศูนย์รวมการให้บริการทางทันตกรรมที่ครบวงจร พร้อมด้วยทีมทันตแพทย์มากประสบการณ์ มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกสาขา อาทิเช่น จัดฟัน อุดฟัน รักษารากฟัน ครอบฟัน สะพานฟัน การรักษาโรคเหงือก การถอนฟัน ผ่าฟันคุด รากฟันเทียม และการรักษาฟันเด็กเป็นต้น ซึ่งงานทันตกรรมที่ได้กล่าวมาก็จะให้การรักษาโดยทันตแพทย์เฉพาะทางในสาขานั้นๆโดยตรง ส่งผลให้ผลลัพท์ที่ได้ภายหลังการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด           นอกจากนี้เรายังมีเครื่องมือทางทันตกรรมที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากลไว้คอยบริการท่าน เช่น อุปกรณ์การจัดฟัน เครื่องเอกซ์เรย์ดิจิตอล เครื่องฟอกสีฟันเลเซอร์ อุปกรณ์การผ่าตัด ประกอบกับการตรวจวินิจฉัยและการวางแผนรักษาที่แม่นยำของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านนั้นๆ ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสะดวกสบาย มั่นใจได้ถึงคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมถึงการคำนึงถึงความปลอดภัย และการปลอดเชื้อเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ทำให้ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการคุณสามารถวางใจในคุณภาพที่ได้มาตรฐานสากล มั่นใจได้ว่า เราดูแลรอยยิ้มของคุณให้สวยสดใสได้เสมอ และที่สำคัญอีกปัจจัยนึงก็คือ เรายึดมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้วยความเอาใจใส่ จริงใจ มีความกระตือรือร้นในการให้บริการ เน้นการบริการที่สร้างความประทับใจให้กับคุณ และครอบครัวของคุณ เราให้ความสำคัญกับการตกแต่งคลินิก โดยเน้นการสร้างบรรยากาศภายในคลินิกที่เป็นกันเอง อบอุ่น ผ่อนคลาย ไม่เครียดในระหว่างรอทำฟัน […]

        มาดูกันค่ะว่ามีเหตุผลใดบ้างที่ทำให้คนไข้ต้องจัดฟันกับแพทย์เฉพาะทางสาขาจัดฟันโดยตรงเท่านั้น ทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาจัดฟันโดยตรง นอกจากจะต้องมีการศึกษาเฉพาะทางด้านการจัดฟันมาแล้ว ยังต้องผ่านการสอบเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาจัดฟันที่ทันตแพทยสภา และได้วุฒิบัตรพร้อมขึ้นทะเบียนเป็น ทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน ซึ่งเป็นการการันตีความรู้ ความสามารถเฉพาะทาง และมีชื่อปรากฏในเว็ปไซด์ของทันตแพทยสภาที่ใช้ตรวจสอบรายชื่อทันตแพทย์จัดฟัน ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า เราสามารถตัดสินใจจัดฟันได้เลย ไม่ต้องลังเล โดยไม่ต้องเสียเวลาไปศึกษาเพื่อหาประวัติความเป็นมาด้วยตัวเองอีก  ในขั้นตอนการจัดฟันนั้น มีรายละเอียดตั้งแต่ก่อนจัดฟัน ระหว่างจัดฟัน และการดูแลสุขภาพช่องปาก และฟันภายหลังจัดฟัน แม้ทันตแพทย์อื่นที่ไม่ใช่เฉพาะทางจัดฟันโดยตรงจะสามารถจัดฟันได้ก็จริง แต่ทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันย่อมมีความเชี่ยวชาญในแง่ของการตรวจความผิดปกติ การวินิจฉัย การวางแผนการรักษา รวมถึงการให้การจัดฟัน และการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาต่างๆขึ้นระหว่างการจัดฟัน เพื่อให้ผลลัพธ์ภายหลังจัดฟันออกมาอย่างดีที่สุด   สิ่งไม่คาดคิด หรือ ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าหากเป็นทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันโดยตรง จะมีความเชี่ยวชาญในการคิด วางแผนการรักษา การตัดสินใจ เพราะหากพลาดอาจหมายถึง ผลกระทบต่อเส้นประสาท การจัดฟันแล้วจู่ๆ ฟันล้ม อาการที่ไม่พึงประสงค์ในระหว่างจัดฟัน ซึ่งถ้าหากคุณหมอมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญทำให้มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้แบบคล่องแคล่วและแม่นยำกว่า นั่นคือเหตุผลสำคัญที่คนไข้ควรต้องได้รับการจัดฟันจากทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันโดยตรง   ทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาจัดฟันจะเลือกใช้เครื่องมือจัดฟันที่เหมาะสมกับคนไข้ รวมถึงเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ผนวกกับฝีมือในการจัดฟันทำให้เกิดประสิทธิผลการจัดฟันตามที่ต้องการในเวลาที่กำหนด เพราะเครื่องมือจัดฟันมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดก็จะเหมาะกับบุคคลที่มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน   นอกจากฝีมือ ประสบการณ์ ที่ได้มาตรฐานเชื่อถือได้แล้ว ทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาจัดฟันโดยตรงจะมีศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้มีความทันสมัยตลอดเวลา […]

          ปัญหาที่พบได้บ่อยในการจัดฟันมักจะเป็นเรื่องกลิ่นปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ เหงือกร่น รวมถึงเครื่องมือหลุดด้วยเช่นกัน ส่วนหนึ่งมาจากการกินอาหารที่ไม่เหมาะสมขณะจัดฟัน ซึ่งเราจะมาแนะนำว่ามีอาหารต้องห้ามอะไรบ้างที่ไม่ควรกินขณะจัดฟัน เพราะอาจจะทำให้เครื่องมือเสียหายได้ 1. อาหารเหนียว           ไม่ว่าจะเป็นหมากฝรั่ง ลูกอมเคี้ยวหนึบ หรืออาหารที่มีความเหนียวหนืดก็ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากของประเภทนี้จะติดเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย แต่เอาออกค่อนข้างยากหรืออาจทำให้เครื่องมือหลุดออก นอกจากนี้ความเหนียวยังสร้างแรงตึงที่ทำให้สามารถดึงแบร็คเก็ตกับลวดจัดฟันให้เลื่อนหลุดเสียหายได้ 2. น้ำแข็ง           ห้ามกัดหรือเคี้ยวน้ำแข็งทั้งก้อนใหญ่หรือก้อนเล็ก เพราะอาจจะทำให้ตัวแบร็คเก็ตหลุดหรือส่งผลต่อลวดจัดฟันให้โค้งงอ ทำให้เสียเวลาต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขเครื่องมือ แต่เราสามารถใช้วิธีอมน้ำแข็งแทนได้ 3. อาหารชิ้นใหญ่           ควรตัดแบ่งอาหารชิ้นใหญ่ ๆ ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดพอดีคำก่อนรับประทาน หากเราใช้ฟันในการกัดอาหารอาจจะทำให้เครื่องมือเคลื่อนเสียหาย 4. อาหารที่มีกระดูก           ซี่โครงหมูทอด กระดูกอ่อน น่องไก่ หรือปีกไก่ มักจะเป็นอาหารที่มีลักษณะค่อนข้างเหนียวและต้องกัดแทะ ซึ่งอาจจะทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้ ดังนั้นควรหั่นหรือแล่ออกให้เป็นชิ้นพอดีคำก่อนกิน โดยห้ามใช้ฟันในการกัดแทะตรง ๆ รวมถึงการกินข้าวโพดฝักด้วยเช่นกัน 5. อาหารเนื้อแข็ง           ถั่ว กุ้งแห้ง ข้าวโพดคั่ว หรือขนมปังฝรั่งเศสที่เรียกว่า “เบเกิล” […]

ขั้นตอนการจัดฟัน เมื่อเราเห็นว่าการจัดฟันนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับเรา สิ่งต่อไปที่เรามักจะต้องการทราบก็คือ การจัดฟันนั้น จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แน่นอนว่า การจัดฟันนั้นมีขั้นตอนหลากหลาย และใช้เวลานาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งการจัดฟันออกได้เป็น 3 ขั้นตอนคือ ขั้นการเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน ระหว่างการจัดฟัน และหลังการจัดฟัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ขั้นตอนของการเตรียมตัวก่อนการจัดฟันในขั้นตอนนี้จะเริ่มจากให้ทันตแพทย์เฉพาะทางในสาขาของการจัดฟันตรวจฟันโดยละเอียด จากนั้นทันตแพทย์จะวินิจฉัยว่าสามารถจัดฟันได้หรือไม่ หากสามารถทำได้ก็จะพูดคุยกับคนไข้เกี่ยวกับแนวทางในการรักษา ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ทันตแพทย์จะตรวจเช็คสภาพฟันและช่องปากโดยละเอียด พูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ซักประวัติ ประเมินความคาดหวังของคนไข้ และตอบคำถามหากคนไข้มีข้อสงสัย หลังผ่านขั้นตอนนี้คนไข้จะมีความเข้าใจและพร้อมที่จะไปสู้ขั้นตอนต่อไป การบันทึกข้อมูล ในขั้นนี้ คนไข้จะต้องให้ความสำคัญและแจ้งข้อมูลอย่างถูกต้องกับทันตแพทย์ เพราะข้อมูลที่ถูกต้องส่งผลอย่างมากต่อการเลือกแนวทางในการรักษา ในขั้นตอนนี้ จะมีการถ่ายภาพทั้งภายนอกและภายในช่องปาก ทำแบบจำลองฟัน ทั้งแบบพิมพ์ปาก และแบบติจิตอล รวมถึงเอ็กซเรย์ฟันให้เห็นโครงสร้างทั้งหมด เมื่อได้ข้อมูลมา ทันตแพทย์จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์โดยละเอียด ว่าโครงสร้างกระดูกขากรรไกรเป็นอย่างไร มีฟันคุดหรือไม่ กระดูกเป็นปกติหรือไม่ รากฟันเป็นอย่างไร จากนั้นก็จะวางแผนในการรักษาที่เหมาะสม เมื่อทันตแพทย์วิเคราะห์ข้อมูลแล้วก็จะวางแนงทางในการรักษา ให้ข้อมูลทางเลือกต่าง ๆ เพื่อให้คนไข้ได้เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกเครื่องมือจัดฟันที่เหมาะสมที่สุดขั้นของการจัดฟันเมื่อคนไข้ได้เข้าใจและตัดสินใจเลือกเครื่องมือจัดฟันแล้ว ขั้นการรักษาก็จะเริ่มขึ้น โดยทันตแพทย์จะติดเครื่องมือจัดฟันให้กับคนไข้ และเพื่อให้การรักษาเป็นไปด้วยความราบรื่น ช่วงระหว่างการรักษานี้คนไข้ควรจะต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด มาพบทันตแพทย๋ตรงเวลาตามการนัดหมาย ดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากตามคำแนะนำ เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม และอาจจะต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลกระทบ เช่นการเล่นกีฬาที่มีการกระทบกระแทก […]

ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟัน               สำหรับผู้ที่ต้องการจะจัดฟัน เมื่อได้พบทันตแพทย์ ได้รับการตรวจวินิจฉันแล้วว่าสามารถที่จะจัดฟันได้ สิ่งที่ผู้ต้องการจะจัดฟันต้องการทราบเป็นอันดับต่อไป ก็มักจะเป็นเรื่องของระยะเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันนั่นเอง เราจะต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันไว้ในช่องปากนานแค่ไหน กว่าที่ฟันจะเรียงตังกันอย่างเรียบสวย แน่นอนว่า คำตอบสำหรับคำถามข้อนี้ จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่สถานการณ์และการเลือกชนิดของการจัดฟันของคนไข้แต่ละคนอย่างไรก็ตาม เมื่อคนไข้ถามว่า จะต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันไว้นานแค่ไหน ทันตแพทย์สามารถจะตอบสั้นๆ ได้ว่า ขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคน ซึ่งคำตอบสั้น ๆ นีิ้ สามารถขยายความได้ดังนีี้การที่คนไข้จะต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันไว้นานแค่ไหนนั้น มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของอายุคนไข้ ปัญหาฟันที่คนไข้กำลังประสบอยู่ ชนิดอุปกรณ์จัดฟันที่เลือกมาเพื่อใช้ในการรักษา ดังนั้นระยะเวลาที่คนไข้แต่ละคนจะใช้จึงต่างกันไป เพราะคนไข้แต่ละคนก็อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน และถ้าหากปัญหา หรือความผิดปกติของฟันของคนไข้นั้นมีมาก เช่นมีความผิดปกติของขากรรไกร มีโรคในช่องปาก หรือมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ระยะเวลาในการจัดฟัน ก็อาจจะยาวนานขึ้นไปอีก                หลังจากที่ทันตพแพทย์ได้ตรวจเช็คในช่องปาก และประเมินสถานการณ์ของคนไข้แล้ว ทันตแพทย์ส่วนใหญ่ก็จะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันให้กับคนไข้ได้ รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการรักษาและการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมในระหว่างที่จัดฟันด้วย       […]